ทริคการจัดห้องนอน ให้นอนหลับสบาย

เทพารักษ์ บางพลี สำโรง แพรกษา ปู่เจ้าสมิงพราย ศรีด่าน ปากน้ำ บางปู สมุทรปราการ
post date  โพสต์เมื่อ 3 ต.ค. 2567   view 7
article

เมื่อห้องนอนคือ จุดเริ่มต้นของการพักผ่อนของคุณ การจัดห้องนอน ให้นอนหลับสบาย นั้นทำให้เกิดความผ่อนคลายมากที่สุด เป็นการนอนหลับที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทำให้การตื่นมาใช้ชีวิตในแต่ละวันมีความสุขและสดใส
อีกทั้งเราจึงต้องหมั่นใส่ใจทำความสะอาด ดูแลห้องนอนให้น่าอยู่ พร้อมกับปรับเปลี่ยนการจัดวางห้องให้รับแสงธรรมชาติ ถ่ายเทอากาศได้ดี

10 ไอเดีย การจัดห้องนอน ให้นอนหลับสบาย

1. เลือกตำแหน่งห้องนอนให้เหมาะสม

โดยส่วนใหญ่จะนิยมเลือกห้องนอนอยู่ทางทิศตะวันออก เนื่องจากเป็นทิศที่มีแดดส่องเข้ามาห้องในตอนเช้า ถ่ายเทอากาศได้ดี ทำให้ในทุกๆ เช้า คนที่เลือกห้องนอนอยู่ฝั่งนี้จะรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย ลดความตึงเครียดระหว่างวัน

2. เลือกความสูงเตียงที่พอเหมาะสม

เตียงนอนไม่ควรสูงหรือต่ำจนเกินไป ยิ่งถ้าบ้านของคุณมีฝ้าเพดานต่ำ เตียงหรือฟูกยิ่งไม่ควรอยู่สูง เพราะเตียงที่สูงอาจจะทำให้คุณต้องเผชิญกับฝุ่นบนฝ้าเพดาน ส่วนใต้เตียงก็ควรจะเปิดโล่งให้อากาศถ่ายเท ก็จะช่วยให้คุณหายใจได้สะดวกขณะนอนหลับยิ่งขึ้น

·    ความสูงของเตียงทั่วไปควรอยู่ระหว่าง 40 – 50 เซนติเมตร

·    เตียงที่ง่ายต่อการเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ควรมีความสูง 50 – 55 เซนติเมตร

·    เตียงที่ให้ความสะดวกสบายแก่ผู้สูงอายุ ควรสูงประมาณ 55 – 60 เซนติเมตร

·    หัวเตียงควรมีความสูงจากพื้นประมาณ 100 – 120 เซนติเมตร (วัดจากขอบล่าง)

      หมายเหตุ : ความสูงของเตียงจะรวมถึงที่นอนด้วย

การเลือกที่นอนต้องคำนึงถึงสรีระเป็นหลัก ควรรองรับความโค้งของกระดูกสันหลัง ไหล่ สะโพก และส้นเท้า ไม่ควรแข็งหรือนุ่มจนเกินไป รวมถึง หมอน ที่ต้องเลือกความสูงที่พอดีทำให้กระดูกต้นคอ กระดูกสันหลัง และกระดูกสะโพกไม่โค้งระหว่างนอน ถือว่าเป็น การจัดห้องนอน ให้นอนหลับสบาย อีกทางหนึ่ง

3. เลือกตำแหน่งเตียงนอน

ตำแหน่งของเตียงนอนไม่ควรอยู่ติดกับประตู เพราะอาจจะทำให้คุณ ตกใจตื่นเพราะคนที่เดินเข้า-ออกหรือเดินผ่าน ตำแหน่งที่ดีสำหรับเตียงนอน ควรเป็นตำแหน่งตรงข้ามประตู เยื้องกับประตูหรือไม่ก็ห่างจากประตูไปเลย

หน้าต่างเป็นส่วนหนึ่งของบ้านที่อาจรบกวนการนอนของคุณ ทำให้คุณได้ยินเสียงรบกวนต่างๆ ขณะนอนหลับอยู่ นอกจากนี้ ไม่ควรวางหัวเตียงใกล้ห้องน้ำ เพราะอาจจะทำให้คุณได้กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ขณะนอนหลับได้

4. โทนสีของห้องนอน

หลักง่ายๆ ในการเลือกสีห้องนอน การจัดห้องนอน ให้นอนหลับสบาย ห้องนอนของเรา ไม่จำเป็นต้องซ้ำแบบใคร มีสไตล์เฉพาะตัว ที่สำคัญ ต้องเป็นโทนสีที่เจ้าของห้องนอนรู้สึกว่าชอบและผ่อนคลายมากที่สุด 

งานวิจัยเกี่ยวกับการนอนหลับจากหลายสถาบันยืนยันตรงกันว่า สีโทนเย็น เช่น ฟ้า เทา เงิน เขียว เป็นสีที่เหมาะกับห้องนอน เพราะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ทำให้ความดันเลือดและอัตราการเต้นของหัวใจลดลง แล้วจบที่การนอนหลับได้สนิทและยาวนานกว่าผู้ที่นอนอยู่ในห้องนอนที่ใช้โทนสีสว่างหรือจัดจ้าน

แนะนำให้คุณเลือกโทนสี 2-3 กลุ่มผสมผสานกัน โดยใช้สูตร 60:30:10 โดย 60% เป็นสีทาผนังและเพดานภายในห้องนอน 30% เป็นสีทาผนังด้านหัวเตียงหรือฝั่งปลายเตียง และ 10% เป็นสีทาบานประตู กรอบหน้าต่าง บัวพื้น บัวฝ้าเพดาน

5. แสงสว่างภายในห้อง

แสงสว่างภายในห้องควรเป็นแสงที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ไม่ควรเป็นแสงสว่างที่มากเกินไปและต้องไม่เป็นแสงสลัว ดังนั้นจึงควรเลือกแสงแบบวอร์มไวท์ (Warm White) ทำให้มองเห็นทุกอย่างภายในห้องได้ชัดเจน ทั้งยังช่วยทำให้คุณหลับได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

หลอดไฟวอร์มไวท์มีตั้งแต่สีเหลืองเข้มไปจนถึงสีส้ม สีโทนอุ่นของหลอดไฟช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายสบายตา สร้างความอบอุ่นโรแมนติก หลอดไฟวอร์มไวท์เหมาะสำหรับการใช้งานภายในห้องนอนและห้องนั่งเล่นเป็นอย่างยิ่ง

หลอดไฟวอร์มไวท์คือหลอดไฟที่เหมาะสำหรับใช้ในห้องนอนมากที่สุด เพราะหลอดไฟวอร์มไวท์ ปล่อยแสงสีฟ้าออกมาน้อยที่สุด ในทางวิทยาศาสตร์พบว่าแสงสีฟ้าจะยับยั้งการผลิตฮอร์โมนที่มีชื่อว่า เมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย หลอดไฟวอร์มไวท์ยังให้บรรยากาศอบอุ่น ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสงบ จึงพักผ่อนได้อย่างสบายใจ โดยระดับความสว่างที่แนะนำสำหรับหลอดไฟวอร์มไวท์คือ 150 – 300 Lux และความสว่างทั่วไปภายในห้องนอนไม่ควรเกินกว่า 150 Lux ข้อดีที่ไม่เหมือนใครของหลอดไฟวอร์มไวท์จะช่วยให้การพักผ่อน นอนหลับสนิทดียิ่งขึ้น

6. ของตกแต่งห้องนอน

รูปภาพในห้องนอนควรเลือกเป็นภาพของวิวทิวทัศน์ธรรมชาติ เน้นการใช้โทนสีสบายตาเช่นสีเขียว สีครีม สีเอิร์ธโทน ที่ทำให้รู้สึกบางเบานอนหลับสบายมากขึ้น พร้อมเพิ่มบรรยากาศให้ห้องมีความเย็นสบาย

ต้นไม้หรือดอกไม้ภายในห้องนอน ควรเป็นต้นไม้ขนาดเล็กทั้งหมด ซึ่งจะถือว่าเป็นการตกแต่งที่จะช่วยทำให้เกิดความผ่อนคลาย พักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ปกติการวางต้นไม้นั้นนิยมวางไว้ให้พ้นตำแหน่งสายตาขณะอยู่บนเตียงนอน

7. เลือกวัสดุที่ไม่ดักฝุ่น

ชุดเครื่องนอน รวมไปถึงหมอนและผ้าห่ม ควรเลือกใช้เนื้อผ้าที่ทำความสะอาดง่าย ไม่อมฝุ่น หมอนที่ทำให้คุณรองคอได้สบาย ไม่นิ่มหรือไม่แข็งเกินไป เพื่อทำให้การหลับของคุณเป็นไปอย่างดีเยี่ยม

เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ภายในห้องนอน อีกหนึ่งส่วนสำคัญในการจัดวางห้องนอน ที่เป็นตัวการดักฝุ่น ใครที่รู้ตัวว่าเป็นภูมิแพ้ แนะนำให้ทำความสะอาดเตียงและห้องนอนอยู่ตลอด

ผ้าม่าน เป็นอีกหนึ่งชิ้นในห้องนอนที่สะสมเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี หมั่นทำความสะอาดทุก ๆ 3-6 เดือน

8. ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม

ตอนเรานอนหลับร่างกายจะมีอุณหภูมิต่ำลงเรื่อยๆ ดังนั้นก่อนนอนไม่ควรปรับอากาศให้หนาวไป หรือร้อนไป เพราะร่างกายเกิดการผิดเพี้ยน ทำให้เราหลับไม่สบายจนต้องลุกขึ้นมากลางดึก

นอกจากนี้การเลือกเครื่องปรับอากาศที่เหมาะกับห้อง และเลือกตำแหน่งติดแอร์ให้เหมาะสม จะช่วยกระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึง หมดปัญหาเรื่องอุณหภูมิห้องนอนไปได้เลย

9. หลีกเลี่ยงเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้อง

ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ ตู้เย็น โทรทัศน์ หรือแม้กระทั่งโทรศัพท์ เนื่องจากสิ่งของเหล่านี้สามารถรบกวนการนอนหลับได้

10. ห้องนอนที่ดีไม่ควรมีโต๊ะทำงานหรือการนำงานเข้ามาทำในห้อง

คงเป็นเรื่องยากที่คุณจะหลับไปโดยไม่คิดถึงเรื่องงาน ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มคนรักหนังสือ ควรเก็บในบนหัวนอนจำนวนไม่กี่เล่มสำหรับอ่านให้ผ่อนคลาย เพราะถ้ามากกว่านั้นอาจทำให้เกิดความคิดและกังวล เหมือนห้องทำงานได้

นอนครบ 8 ชั่วโมง ทำไมยังรู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย?

 

การจัดห้องนอน ให้นอนหลับสบาย การนอนหลับนั้นเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี แต่บางครั้งการนอนหลับที่ไม่เพียงพอ ถึงแม้ว่าจะนอนครบ 8 ชั่วโมงแล้วก็ตาม ทำให้คุณรู้สึกไม่สดชื่น ลองมาดูกันว่ามีสาเหตุใดบ้างที่ทำให้นอนเท่าไรก็ไม่พอ ตื่นมาแล้วยังอ่อนเพลียและเหนื่อยล้า ถ้าเจอกับสถานการณ์นี้ เราจะมีวิธีการแก้ไขอย่างไร?

  • ความเครียดหรือความกังวล

เป็นสาเหตุสำคัญมาก ๆ ที่ทำให้การนอนหลับของคุณไม่เพียงพอ เทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณนอนหลับได้สนิท นั่นก็คือ การฝึกนั่งสมาธิ โยคะ การหายใจเข้าลึก ๆ หรือการฟังเพลง ASMR

  • ใช้เวลากับหน้าจอมากเกินไป

แสงสีฟ้าจากอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มือถือ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ จะไปขัดขวางการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยให้เรารู้สึกง่วงและผ่อนคลาย เพื่อให้สมองเตรียมพร้อมเข้าสู่การนอนหลับ ควรหลีกเลี่ยงการใช้งานหน้าจออย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนนอน แล้วหันไปทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายแทน เช่น การอ่านหนังสือ การฟังเพลงเบาๆ

  • สภาพแวดล้อมการนอนหลับที่ไม่เหมาะสม

สภาพแวดล้อมในห้องนอนที่ไม่เหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น มีแสงสว่างหรือเสียงดังรบกวนมากจนเกินไป อุณหภูมิในห้องร้อนหรือหนาวเกินไป หรือที่นอนและหมอนที่ไม่สบาย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอุปสรรคต่อการนอนหลับที่ดี ห้องนอนควรเป็นสถานที่ที่สงบ เย็นสบาย และมืดสนิท การจัดห้องนอนให้เหมาะสำหรับการพักผ่อนและผ่อนคลาย จะช่วยให้คุณหลับสบายและตื่นมาอย่างสดชื่น

  • เวลาเข้านอนที่ไม่สม่ำเสมอในทุก ๆ วัน

เวลาเข้านอนและตื่นนอนในเวลาที่แตกต่างกันในแต่ละวัน จะส่งผลทำให้การนอนหลับไม่ดีเท่าที่ควร พยายามปรับการนอนที่สม่ำเสมอ โดยเข้านอนและตื่นนอนในเวลาใกล้เคียงกันทุก ๆ วัน

  • อาหารและไลฟ์สไตล์

ไม่ว่าจะเป็นการดื่มคาเฟอีน ซึ่งมีในหลายรูปแบบมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น ชา กาแฟ ชานมไข่มุก น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือกินมื้อหนักในช่วงใกล้นอน จะไปกระตุ้นร่างกายและทำให้นอนหลับยาก เช่นเดียวกับการใช้ชีวิตที่เคร่งเครียดและขาดการออกกำลังกาย ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้ เพื่อส่งเสริมการนอนหลับที่ดีขึ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง (3)