ปัญหาเรื่องภาวะโลกร้อน อากาศแปรปรวนด้วยคลื่นความร้อน เป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ เราทุกคนจึงควรช่วยกันบรรเทาและแก้ไขปรากฎการณ์ที่ส่งผลต่อความเป็นอยู่ของทุกชีวิตบนโลก วิธีเลือกซื้อบ้าน ประหยัดค่าไฟ เงินในกระเป๋า เริ่มได้จากที่บ้านของเรา ด้วย 3 ขั้นตอนดังนี้
การทำให้บ้านเย็นสบาย เป็นวิธีพื้นฐานที่สุดในการประหยัดพลังงาน การเลือกซื้อบ้าน ที่ใช้วัสดุที่ทำให้เกิดความเย็นสบาย ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้คุณประหยัดเงินในกระเป๋า เพราะหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากก็คือเครื่องปรับอากาศ ดังนั้นถ้าตัวบ้านสามารถอยู่อาศัยได้อย่างเย็นสบายอยู่แล้ว ก็จะลดการใช้แอร์ไปโดยปริยาย ซึ่งการทำให้บ้านเย็นสบายเป็นสิ่งที่ต้องคิดและวางแผนตั้งแต่ปลูกสร้างบ้าน ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบบ้าน และเลือกวัสดุก่อสร้างบ้านคร่าวๆ ดังนี้
“ทิศของลม และ แสงแดดก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะเลือกซื้อบ้านว่าควรจะหันไปทางทิศไหนดี วันนี้จะมาแนะนำทิศที่เหมาะสม เพราะบ้านหลังนี้จะต้องอยู่ไปกับเราอีกยาวนาน”
ทิศเหนือ จะรับแดดปีละ 4 เดือนโดยประมาณ ตั้งแต่ มีนาคม ถึงมิถุนายน นอกเหนือจากเดือนดังกล่าวจะเป็นทิศที่โดนแดดน้อยที่สุด ทำให้หน้าบ้านเย็นสบาย ลมประจำช่วงฤดูหนาวจะพัดมาจากทิศเหนือ ทำให้หน้าบ้านจะได้รับลมในช่วงเวลาบ่าย
ทิศใต้ มีลมพัดผ่านอยู่ตลอด ซึ่งบ้านที่มีอากาศไหลเวียนดี ย่อมนำมาซึ่งสุขภาพที่ดีด้วย อีกทั้งในทางฮวงจุ้ย ยังถือเป็นทิศทางของทรัพย์หรือโชคลาภด้วย
ทิศตะวันออก จะได้รับประโยชน์ในเรื่องของแสงแดด ตอนเช้าแสงส่องหน้าบ้านถือเป็นแดดดีไม่ร้อนเกินไป ส่วนตอนบ่าย หน้าบ้านจะร่ม สามารถทำกิจกรรมด้านหน้าตัวบ้านได้ แต่ถ้าเลือกทิศนี้ไม่ควรลืมติดหลังคากันแดด หรือทำชายคายื่นออกมามากกว่าปกติสักเล็กน้อยด้วย เพราะช่วงเช้าและเที่ยงจะโดนแสงส่องมาเต็มอัตราด้วยเช่นกัน
ทิศตะวันตก ทิศนี้ได้รับความร้อนจากแสงแดดในช่วงบ่าย ซึ่งจะทำให้ร้อนกว่าทิศอื่นๆ แต่ถ้ามองในแง่ดี ทิศนี้เหมาะกับคนที่ต้องซักผ้าเป็นประจำ เพราะแดดแรงและผ้าที่ตากไม่อับชื้น และช่วยฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ภายในห้องได้
ใช้ฉนวนกันความร้อน ยกตัวอย่างเช่น ฉนวนไฟเบอร์กลาส ผนังสำเร็จรูปที่มีฉนวนกันความร้อน การใช้กระจกกันความร้อน ทาบ้านสีอ่อนรวมถึงเลือกใช้สีที่ช่วยกันความร้อน
ในที่นี้จะรวมถึงพื้นที่สีเขียวของโครงการที่เราต้องการซื้อบ้าน บริเวณสวนสาธารณะส่วนกลางหรือตลอดแนวถนน พื้นที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์และความร่มเย็น ทำให้บรรยากาศของโครงการ เต็มไปด้วยความเย็นสบาย
หรืออาจจะเริ่มต้นจากบ้านของเรา การปลูกต้นไม้รอบๆ บ้านเป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้บ้านร่มรื่นเย็นสบาย เพราะร่มเงาของต้นไม้ช่วยลดความร้อนจากแสงแดด อีกทั้งเป็นเครื่องฟอกอากาศธรรมชาติอีกด้วย
ฉลากประหยัดไฟ เบอร์ 5 จะเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพดีและประหยัดพลังงานในระยะยาว เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพการประหยัดพลังที่ได้มาตราฐานตามที่ กฟผ. และกระทรวงพลังงานกำหนด
ระบบ Inverter ควบคุมการทำงานระบบเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ทำงานอย่างสม่ำเสมอ และช่วยประหยัดพลังงานกว่าเดิมอย่างน้อย 30% เรามักจะคุ้นหูกับแอร์ระบบ Inverter มากที่สุด แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ก็มีระบบ Inverter ด้วยเหมือนกัน เช่นตู้เย็น Inverter, เครื่องซักผ้า Inverter ฯลฯ แม้เครื่องใช้ไฟฟ้า Inverter จะมีราคาสูงกว่าเทคโนโลยีแบบเดิม แต่ในระยะยาวแล้วช่วยประหยัดพลังงาน คุ้มค่ากว่าแน่นอน
วิธีเลือกซื้อบ้าน ประหยัดค่าไฟ เงินในกระเป๋า เริ่มได้จากที่บ้านของเรา ยิ่งถ้าบ้านที่คุณกำลังจะซื้อนั้น มีเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้อยู่แล้ว ก็ยิ่งทำให้คุณมั่นใจได้ว่า จะสามารถประหยัดทั้งค่าไฟ และเงินในกระเป๋า อย่างแน่นอน
ปัจจุบันเทคโนโลยีโซลาร์เซลล์ได้ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่องและประสิทธิภาพสูงขึ้นมากกว่าในอดีต การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากขึ้น คืนทุนเร็วยิ่งขึ้น หลังคาโซลาร์เซลล์เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่อยากมีบ้าน แบบประหยัดพลังงานแบบขั้นสุด
ขั้นตอนที่ 2 แจ้งขอยกเว้นการขอใบอนุญาตจาก กกพ.
หากติดตั้งโซล่าเซลล์ที่มีกำลังผลิตติดตั้งไม่ถึง 1000 kVA หรือประมาณ 800 kW จะต้องยื่นขอยกเว้นการขอใบอนุญาตจาก กกพ.
ขั้นตอนที่ 3 ยื่นขอขนานไฟฟ้ากับการไฟฟ้าตามเขตพื้นที่ใช้งาน
โดยสามารถยื่นผ่านเว็บไซต์ได้ ไม่ว่าจะเป็น การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
ขั้นตอนที่ 4 รับการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า
เมื่อได้รับการตรวจสอบเรียบร้อย จากเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าแล้ว จะต้องเปลี่ยนมิเตอร์เป็นมิเตอร์ดิจิทัล และติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟย้อน ซึ่งในขั้นตอนนี้ต้องชำระเงินค่าตรวจสอบการเชื่อมระบบของการไฟฟ้า และค่าอุปกรณ์ต่างๆ ก็จะเป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการค่ะ
วิธีเลือกซื้อบ้าน ประหยัดค่าไฟ เงินในกระเป๋า เริ่มได้จากที่บ้านของเรา บ้านจะเย็นสบายได้นั้น ขึ้นอยู่กับการออกแบบความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานด้วยเช่นกัน เพราะลักษณะฝ้าเพดานสูงจะช่วยให้อากาศปลอดโปร่ง ถ่ายเทได้ดี ไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์ แต่ไม่ใช่ว่าจะปรับระดับความสูงเท่าไหร่ก็ได้ เพราะบ้านที่เย็นสบายนั้น ควรมีความสูง 2.6 เมตร ขึ้นไป
ประตู-หน้าต่างระบายอากาศ เลือกประตูที่มีช่องให้อากาศถ่ายเท ที่สามารถปิดเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวได้ และมีหน้าต่างที่สามารถเปิด-ปิดเพื่อรับอากาศได้ด้วย
วัสดุปูพื้น หินเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติคลายร้อนและกักเก็บความเย็นไม่ว่าจะเป็นหินอ่อนหรือหินแกรนิต นอกจากนี้ยังสามารถใช้กระเบื้อง หรือจะเป็นพื้นปูนเปลือยเพื่อสร้างบรรยากาศสไตล์ลอฟต์เท่ ๆ ก็ได้เช่นกัน